Avalanche (AVAX) คืออะไร
Avalanche (AVAX) นั้นก็เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Smart Contract ที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ Ethereum กำลังประสบอยู่ อย่างเรื่องค่า Gas, ความเร็ว, และจำนวนธุรกรรมที่สามารถประมวลได้
.
Avalanche เป็น Blockchain Layer-1 ที่มีการทำงานแบบ Proof Of Stake (PoS) ที่จะให้รางวัลแก่ Validators ที่นำเหรียญมา Stake แต่สิ่งที่ทำให้ Avalanche แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆคือ เทคโนโลยีที่เรียกว่า DAG Consensus ที่จะมีการทำงานโดยการสุ่ม Nodes ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ยืนยันธุรกรรมเป็นลูป ซึ่งเมื่อเกิดการสุ่มซ้ำหลายๆครั้ง จะทำให้ได้ข้อมูลที่มีความแม่นยำในเวลาที่สั้นลง ซึ่ง Avalanche สามารถลดเวลาที่ใช้ในการยืนยันธุรกรรมให้เหลือไม่ถึง 2 วินาที นอกจากเรื่องความเร็วแล้ว DAG Consensus ยังช่วยให้ Avalanche มีความ Decentralize สูงมากและสามารถแก้ปัญหา 51% Attack ได้เป็นอย่างดี
.
(ทดลองดูการทำงานของ DAG Consensus ได้ ที่นี่)
Chain บน Avalanche ถูกแบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วนหลักๆ เพื่อให้ระบบการทำงานของ Avalanche มีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น โดยประกอบด้วย
Exchange Chain (X-Chain) สำหรับใช้ในการทำธุรกรรมทั่วๆไป
Contract Chain (C-Chain) สำหรับสร้าง Smart Contract ที่เขียนโดย Ethereum Virtual Machine (EVM)
Platform Chain (P-Chain) สำหรับสร้าง Node ต่างๆ
และการที่ Avalanche เลือกที่จะใช้งาน Smart Contract แบบ EVM นั้นก็ยังช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำ DApps ที่พัฒนาบน Ethereum มาใช้งานบน Avalanche ได้อย่างสะดวก ไม่เพียงเท่านั้น Avalanche ยังทำการเปิดตัว Avalanche Bridge (AB) เทคโนโลยี Cross-Chain Bridging ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการโอนสินทรัพย์ระหว่าง Avalanche และเครือข่าย Ethereum ทำให้ DApps ชื่อดังอย่าง Aave, Chainlink, Curve, Pangolin, Sushiswap เข้ามาอยู่ใน Ecosystem อย่างรวดเร็ว และ Avalanche เองก็ยังมี Native DApps อย่าง Avalaunch, Pangolin และ Trader Joe อีกด้วย
ว่ากันเรื่องของ Tokenomics กันบ้าง
AVAX นั้นเป็น Native Token และ Governance Token ของแพลตฟอร์ม Avalanche โดยมี Supply สูงสุดอยู่ที่ 720,000,000 เหรียญ ซึ่งอัตราการปล่อยนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามมติของ Community (แต่จำนวนเหรียญไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นะ)
เหรียญ AVAX นั้น จะถูกใน 2 ส่วนหลักๆคือ ใช้เป็นค่า Gas สำหรับทุกธุรกรรมบน Avalanche Chain และใช้ในการ Stake เพื่อเป็น Validator มาถึงตรงนี้ หลายๆคนอาจจะกังวลเรื่องอัตราการเฟ้อของเหรียญ AVAX แต่ทาง Ava Labs ก็ได้ป้องกันในเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยการนำค่า Gas จากทุกๆธุรกรรมไป Burn เพื่อป้องกันการเฟ้อ และยังช่วยให้ค่าธรรมเนียมคงที่เสมอ ไม่ว่าจะมีคนมาใช้บริการหนาแน่แค่ไหน (ดูปริมาณการ Burn ได้จากลิงค์ด้านล่าง)
.
แล้วความเสี่ยงของ Avalanche หล่ะ?
- คู่แข่งที่เป็น Layer-1 ด้วยกัน อย่าง Ethereum, Polkadot, และ Solana ซึ่งมีการแข่งขันที่สูง
- Ethereum Layer-2 ที่พยายามทำให้ค่า Gas ถูกลงและมีความเร็วสูงขึ้น ซึ่งถ้าทำได้จริง ก็ต้องยอมรับว่า Ethereum ยังคงเป็นผู้นำในตลาด Smart Contract เนื่องจากมีฐานผู้ใช้งานจำนวน และไม่มีเหตุผลให้ผู้ใช้ย้ายไป Chain อื่น
.
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Avalanche จะมีของอะไรใหม่ๆออกมาให้เราได้เห็นกันในอนาคต
.
บทความนี้ไม่ใช่การแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด
.
#DYOR ทำความเข้าใจเพิ่มเติมและวางแผนให้ดีก่อนลงทุน
#Avalanche #AVAX #SmartContracts #LayerOneBlockchain
.
