การกลับมาของ Ethereum 2.0 และต้นกำเนิด Scaling War

Pipop Rungrojwongsiri
3 min readFeb 5, 2022

ต่อเนื่องจากบทความที่แล้ว ที่บอกว่า Ethereum ยังต้องใช้เวลากว่า 5–10 ปีในการพัฒนา Ethereum 2.0 จนสมบูรณ์ โดยแผนในการพัฒนานี้ได้แบ่งออกเป็น 4 Phases

.

Phase 0 คือการเริ่มต้นการใช้งาน Beacon Chain (เปิดตัวในวันที่ 1 ธันวาคม 2020) ซึ่งจะเป็น Chain คู่ขนานที่มีกลไกการทำงานแบบ Proof-of-Stake (PoS) ควบคู่ไปกับ Ethereum Mainnet ที่ใช้กลไกการทำงานจาก Proof-of-Work (PoW) และจะเปลี่ยนมาใช้งาน Beacon Chain เต็มตัวในปี 2022

.

Phase 1 นั้นเริ่มต้นในปี 2021 โดยเริ่มแรกตั้งใจไว้ว่าจะนำเทคโนโลยี Sharding ที่เป็นกระบวนการในการจัดเก็บข้อมูลรูปแบบหนึ่งมาช่วยในการแก้ปัญหาการ Scaling ภายใต้ชื่อ Shard Chains แต่ถูกแทนที่ด้วย The Merge ที่จะรวม Beacon Chain และ Ethereum Mainnet เข้าด้วยกัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2022

.

Phase 1.5 คือช่วงที่ Shard Chains สามารถทำงานควบคู่ ไปกับ Beacon Chain ได้แล้ว ซึ่งจะทำให้ Ethereum มีกลไกการทำงานแบบ PoS อย่างเต็มรูปแบบ ขั้นตอนนี้จะทำให้ Ethereum มีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงขึ้นอย่างมาก และจะเกิดขึ้นในช่วง 2023

.

Phase 2 น้ันยังอยู่ในระหว่างการศึกษาแนวทางการพัฒนา แต่เบื้องต้นได้ให้ข้อมูลแล้วว่า Ethereum จะพัฒนาขึ้นในรูปแบบ Rollup-Centric

จะเห็นได้ว่า การจะออกตัว Ethereum 2.0 มาให้เราได้ใช้งานนั้น ยังต้องใช้เวลาไปอีกซักระยะ ซึ่งอาจจะทำให้ถูก Chains อื่นๆแย่งฐานผู้ใช้งานไปจนหมด จึงเกิดการแก้ปัญหาในระยะสั้นด้วย Scaling Solutions ต่างๆ

.

โดยทั่วไปแล้ว Scaling Solutions สามารถทำได้ผ่าน 2 รูปแบบ คือการปรับการทำงานของตัว Layer 1 เอง (หรือก็คือ Ethereum 2.0 ที่กำลังดำเนินการอยู่) และอีกวิธีก็คือการถ่ายธุรกรรมบางส่วนไปประมวลผลบน Layer 2 ทำให้ความแออัดบน Layer 1 ลดลง

.

ในปัจจุบัน Scaling Solutions บน Layer 2 ที่นิยมมีอยู่ 4 แบบ ซึ่งมีการทำงานทั้งแบบ On-Chain ที่จะบันทึกธุรกรรมลงบน Ethereum Mainnet จึงมีความปลอดภัยที่สูง และ Off-Chain ที่จะบันทึกธุรกรรมอยู่นอก Ethereum Mainnet จึงอาจจะทำให้ความปลอดภัยลดลง

  1. Channels (On-Chain) ที่สามารถประมวลผลได้เร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ แต่มีข้อเสียในเรื่องของความน่าเชื่อถือเพราะสามารถตรวจสอบธุรกรรมย้อนหลังได้ยาก อีกทั้งยังใช้งานกับ Smart Contracts ที่ซับซ้อนไม่ได้ จึงถูกใช้งานเกี่ยวกับ Payment ทั่วๆไปเท่านั้น
  2. Sidechains (Off-Chain) ที่สามารถทำธุรกรรมได้ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีจุดเด่นในเรื่องความเร็ว และถูก นอกจากนั้นก็ยังรองรับ Ethereum Virtual Machine (EVM) อีกด้วย แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัย เพราะมีความปลอดภัยเทียบเท่ากับ Consensus ของ Chain นั้นๆ และธุรกรรมทั้งหมดก็ไม่ได้ถูกบันทึกลงบน Ethereum Mainnet
  3. Plasma (Off-Chain) อีกหนึ่ง Solution ที่มีจุดเด่นในเรื่องความถูกและเร็วเช่นเดียวกัน แต่ก็ติดข้อจำกัดในเรื่องของการรองรับ Smart Contracts ที่มีความซับซ้อนไม่ได้ แถมยังใช้เวลาในการถอนเงินค่อนข้างนานเนื่องจากระบบ Fraud Proofs
  4. Rollups (On-Chain) ที่เปรียบได้ดัง ทางด่วน เพราะจะนำธุรกรรมทั้งหมดมาประมวลผลบน Layer 2 ก่อน แล้วจึงค่อยรวบรวมมาบันทึกบน Ethereum Mainnet ภายหลังในธุรกรรมเดียว ซึ่งเป็นแนวทางที่ Ethereum เลือกใช้เป็น Scaling Solution ในระยะสั้น-กลาง โดยเทคโนโลยี Rollups สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท

ZK Rollups (Zero Knowledge Rollups) มีความเร็วกว่า Optimistic Rollups แต่ไม่รองรับ EVM จึงทำให้นักพัฒนา DApps ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้การใช้งานซักระยะ และมักจะมีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง เช่น zkSync ที่โฟกัสในเรื่อง Payment เพียงอย่างเดียว โดยมีโปรเจคที่น่าสนใจที่นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้งาน คือ StarkWare

.

Optimistic Rollups มีข้อดีในเรื่องการรองรับ EVM จึงมีความเป็นมิตรกับนักพัฒนา DApps ส่วนใหญ่ แต่ทำงานได้ช้ากว่า ZK Rollups และมีการทำงานแบบ General Purpose คือสามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น Arbitrum, Optimism ที่มีการทำงานคล้าย Layer 1 โดยเปิดให้ DApps อย่าง Uniswap และ 1inch มาใช้งาน

การมาของ Scaling Solutions นั้นอาจจะทำให้การทำงานของ Ethereum เปลี่ยนไปอีกขั้น จนกลายเป็น Blockchain สำหรับ Blockchains ในอนาคต โดยผู้ใช้งานทั่วไปจะถูกย้ายขึ้นไปใช้งานบน Layer 2 ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงขึ้น พร้อมๆกับค่า Gas ที่ถูกลงอย่างมาก ซึ่งจะทำให้การหมุนของเงินในระบบสูงขึ้นอย่างมหาศาล และในอนาคต DApps ส่วนใหญ่มีแนวโน้มว่าจะถูกออกแบบมาให้รองรับ Layer 2 ตั้งแต่แรก อีกทั้ง Total Value Locked (TVL) ทั้งหมดบน Layer 2 จะถูกนับรวมว่าอยู่บน Ethereum Mainnet ด้วย ทำให้มีแนวโน้มว่า Ethereum จะสามารถดึงส่วนแบ่งทางการตลาดกลับมาได้อีกครั้งอย่างไม่ยากเย็นนัก

.

ถึงแม้ว่าจะเป็นสัญญาณเชิงบวกและแนวโน้มที่ดีสำหรับ Ethereum แต่ดูเหมือนว่าสงครามครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้นในกลุ่ม Scaling Solutions โดยเฉพาะ Rollups ที่พึ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน ตรงนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ใครจะเป็นผู้ชนะในสงครามนี้ ซึ่งเราจะหยิบแต่ละโปรเจคมาพูดถึงในบทความต่อๆไป

.

#DYOR ทำความเข้าใจเพิ่มเติมและวางแผนให้ดีก่อนลงทุน

.

#Ethereum #ETH #SmartContracts #LayerOneBlockchain #ScalingSolutions #LayerTwoBlockchain

.

https://ethereum.org/en/eth2/

https://ethereum.org/en/developers/docs/scaling/

https://ethereum-magicians.org/t/a-rollup-centric-ethereum-roadmap/4698

https://vitalik.ca/general/2021/12/06/endgame.html

https://members.delphidigital.io/reports/l1-vs-l2-entering-the-endgame/

https://www.ledger.com/academy/what-is-the-blockchain-trilemma

Sign up to discover human stories that deepen your understanding of the world.

Free

Distraction-free reading. No ads.

Organize your knowledge with lists and highlights.

Tell your story. Find your audience.

Membership

Read member-only stories

Support writers you read most

Earn money for your writing

Listen to audio narrations

Read offline with the Medium app

Pipop Rungrojwongsiri
Pipop Rungrojwongsiri

Written by Pipop Rungrojwongsiri

PipopR888💰 — Cryptocurrency Trader, Researcher, and Investor

No responses yet